dhamma-scholar-book / 49 /490006.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
49,0006,001,ปัญญา ได้แก่ปัยยาของคนสามัญประการหนึ่ง โลกุตรปัญญา ได้แก่
49,0006,002,ปัญญาของพระอริยเจ้าประการหนึ่ง ฯ ประการต้น ได้แก่ ปัญญา
49,0006,003,รู้ศิลปวิทยาต่าง ๆ ที่เป็นไปตามวิสัยของโลก มีความรู้ที่เกี่ยวแก่การ
49,0006,004,อาชีพเป็นต้น ฯ ประการที่ ๒ ได้แก่ ปัญญาที่สัมปยุตด้วย มรรค
49,0006,005,ผล นิพพาน ฯ อันปัญญาทั้ง ๒ ประการนี้ ย่อมให้สำเร็จประโยชน์
49,0006,006,ตามฐานะ เพราะปัญญาเป็นสิ่งควรเปรียบด้วยแก้วสารพัดนึก ผู้มีแก้ว
49,0006,007,ชนิดนั้นอยู่ เมื่อความต้องการด้วยสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นนึกน้อมเอาสิ่งนั้น
49,0006,008,ก็ย่อมได้สมหวังทุกเมื่อ อันปัญญานี้ ก็ให้สำเร็จสิ่งที่ประสงค์ได้ทุกเมื่อ
49,0006,009,ฉันนั้นเหมือนกัน พระบรมศาสดาจารย์ได้ตรัสสรรเสริญว่าเป็นรัตนะ
49,0006,010,ของนรชน ดังพระพุทธนิพนธ์ว่า
49,0006,011,<B> ปญฺา นรานํ รตนํ</B>
49,0006,012,แปลว่า ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน ดังนี้ ฯ
49,0006,013,อันคุณคือปัญญานี้ ย่อมสามารถสอดส่องเหตุการณ์ หรือ
49,0006,014,สรรพสิ่งต่าง ๆ ทั้งในที่ลับและที่เปิดเผยได้ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด พระ
49,0006,015,อาทิตย์พระจันทร์ทั้ง ๒ นี้ อันชาวโลกต่างยกย่องว่ามีคุณมหึมา สามารถ
49,0006,016,กำจัดมืดให้สว่างได้ทั่วโลก ถึงอย่างนั้น ก็กำจัดได้เฉพาะในสถานที่
49,0006,017,เปิดเผย ไม่มีวัตถุอะไรกำบัง ไม่สามารถกำจัดมืดในที่มีวัตถุปิดบัง
49,0006,018,ได้แม้แต่น้อย ส่วนคุณคือปัญญานี้ ย่อมสามารถแผ่รัศมีกำจัดมืดได้
49,0006,019,ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง และสามารถรู้ทั่วถึงทั้งของหยาบและละเอียดได้
49,0006,020,ทุกประการ พระบรมศาสดาจารย์ จึงทรงสรรเสริญว่าเป็นแสงสว่าง
49,0006,021,ในโลกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ดังพระสุคตภาษิตว่า