Book,Page,LineNumber,Text
31,0035,001,ควรถือเอา นุ่งผ้าเก่า ถือหม้อออกไปแต่เช้าตรู่เหมือนไปสู่ท่าน้ำกับ
31,0035,002,พวกนางทาสี ถึงที่นั้นแล้วได้ยืนคอยการมาของนายพรานอยู่. แม้นาย
31,0035,003,พรานก็ขับเกวียนออกไปแตาเช้าตรู่. ฝ่ายนางก็เดินตามหลังนายพรานนั้น
31,0035,004,"ไป. เขาเห็นนางจึงพูดว่า "" ข้าพเจ้าไม่รู้จักเจ้าว่า ' เป็นธิดาของผู้ชื่อ"
31,0035,005,"โน้น,' แน่แม่ เจ้าอย่าตามฉันไปเลย."" นางตอบว่า "" ท่านไม่ได้"
31,0035,006,"เรียกฉันมา, ฉันมาตามธรรมดาของตน, ท่านจงนิ่ง ขับเกวียนของ"
31,0035,007,"ตนไปเถิด."" เขาห้ามนางแล้ว ๆ เล่า ๆ ทีเดียว. ครั้นนางพูดกับเขาว่า"
31,0035,008,""" อันการห้ามสิริอันมาสู่สำนักของตนย่อมไม่ควร "" นายพรานทราบ"
31,0035,009,การมาของนางเพื่อตนโดยไม่สงสัยแล้ว ได้อุ้มนางขึ้นเกวียนไป.
31,0035,010,มารดาบิดาของนางให้คนหาข้างโน้นข้างนี้ก็ไม่พบ สำคัญว่า
31,0035,011,""" นางจักตายเสียแล้ว "" จึงทำภัตเพื่อผู้ตาย๑. แม้นางอาศัยการอยู่"
31,0035,012,ร่วมกับนายพรานนั้น คลอดบุตร ๗ คนโดยลำดับ ผูกบุตรเล่านั้น
31,0035,013,ผู้เจริญวัยเติบโตแล้ว ด้วยเครื่องผูกคือเรือน๒.
31,0035,014,[ กุกกุฏมิตรอาฆาตในพระพุทธเจ้า ]
31,0035,015,ภายหลังวันหนึ่ง พระศาสดาทรงตรวจดูสัตวโลกในเวลาใกล้รุ่ง
31,0035,016,ทรงเห็นนายพรานกุกกุฏมิตรกับบุตรและสะใภ้ เข้าไปในข่ายคือพระ
31,0035,017,"ญาณของพระองค์ ทรงใคร่ครวญว่า "" นั่นเหตุอะไรหนอแล ? "" ทรง"
31,0035,018,เห็น อุปนิสัยแห่งโสดาปัตติมรรคของชนเหล่านั้นแล้ว ทรงถือบาตรและ
31,0035,019,จีวร ได้เสด็จไปที่บ่วงดักของนายพรานนั้นแต่เช้าตรู่. วันนั้นแม้เนื้อ
31,0035,020,สักตัวหนึ่งก็มิได้ติดบ่วง.
31,0035,021,
31,0035,022,๑. ทำบุญเลี้ยงพระแล้วอุทิศผลบุญไปให้ผู้ตาย. ๒. จัดแจงแต่งงานให้มีเหย้าเรือน.