Book,Page,LineNumber,Text
31,0023,001,[ อย่าดูหมิ่นกรรมชั่วว่านิดหน่อย ]
31,0023,002,"ทีนั้น พระศาสดาตรัสกะเธอว่า "" อันภิกษุทั้งหลายทำอย่างนั้น"
31,0023,003,"ย่อมไม่ควร, ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม ใคร ๆ ไม่ควรดูหมิ่นว่า นิด"
31,0023,004,หน่อย; เหมือนอย่างว่า ภาชนะที่เขาเปิดปากตั้งไว้กลางแจ้ง เมื่อ
31,0023,005,"ฝนตกอยู่ ไม่เต็มได้ด้วยน้ำหยาดเดียวโดยแท้, ถึงกระนั้น เมื่อ"
31,0023,006,"ฝนตกอยู่บ่อย ๆ ภาชนะนั้นย่อมเต็มได้แน่ ๆ ฉันใด, บุคคลผู้ทำ"
31,0023,007,บาปกรรมอยู่ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้นโดยลำดับได้อย่างแน่ ๆ
31,0023,008,"ฉันนั้นเหมือนกัน "" ดังนี้แล้ว. เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึง"
31,0023,009,ตรัสพระคาถานี้ว่า
31,0023,010,"""บุคคลที่ไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า 'บาปมีประมาณ"
31,0023,011,น้อยจักไม่มาถึง' แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาด
31,0023,012,"น้ำที่ตกลง (ทีละหยาด) ได้ฉันใด, ชนพาลเมื่อ"
31,0023,013,สั่งสมบาปแม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้
31,0023,014,"ฉันนั้น."""
31,0023,015,[ แก้อรรถ ]
31,0023,016,บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มามวฺเถ ความว่า บุคคลไม่
31,0023,017,ควรดูหมิ่น.
31,0023,018,บทว่า ปาปสฺส แปลว่า ซึ่งบาป.
31,0023,019,บาทพระคาถาว่า น มตฺตํ อาคมิสฺสติ ความว่า บุคคลไม่ควร
31,0023,020,"ดูหมิ่นบาปอย่างนี้ว่า "" เราทำบาปมีประมาณน้อย, เมื่อไร บาปนั่นจัก"
31,0023,021,"เผล็ดผล ?"""