Book,Page,LineNumber,Text
31,0020,001,สืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงได้ภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า
31,0020,002,"""แม้คนผู้ทำบาป ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอด "
31,0020,003,"กาลที่บาปยังไม่เผล็ดผล, แต่เมื่อใด บาปเผล็ด"
31,0020,004,"ผล, เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่าชั่ว, ฝ่ายคน"
31,0020,005,ทำกรรมดี ย่อมเห็นกรรมดีว่าชั่ว ตลอดกาลที่
31,0020,006,"กรรมดียังไม่เผล็ดผล, แต่เมื่อใด กรรมดีเผล็ด"
31,0020,007,"ผล, เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่าดี."
31,0020,008,[ แก้อรรถ ]
31,0020,009,บุคคลผู้ประกอบบาปกรรมมีทุจริตทางกายเป็นต้น ชื่อว่าคนผู้บาป
31,0020,010,ในพระคาถานั้น.
31,0020,011,ก็บุคคลแม้นั้น เมื่อยังเสวยสุขอันเกิดขึ้น ด้วยอานุภาพแห่ง
31,0020,012,สุจริตกรรมในปางก่อนอยู่ ย่อมเห็นแม้บาปกรรมว่าดี.
31,0020,013,บาทพระคาถาว่า ยาว ปาปํ น ปจฺจติ เป็นต้น ความว่า
31,0020,014,บาปกรรมของเขานั้น ยังไม่ให้ผลในปัจจุบันภพหรือในสัมปรายภพ
31,0020,015,เพียงใด. (ผู้ทำบาป ย่อมเห็นบาปว่าดี เพียงนั้น). แต่เมื่อใด
31,0020,016,"บาปกรรมของเขานั้นให้ผล ในปัจจุบันภพหรือในสัมปรายภพ, เมื่อ"
31,0020,017,นั้น ผู้ทำบาปนั้น เมื่อเสวย๑กรรมกรณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันภพ และ
31,0020,018,ทุกข์ในอบายในสัมปรายภพอยู่ ย่อมเห็นบาปว่าชั่วถ่ายเดียว.
31,0020,019,ในพระคาถาที่ ๒ (พึงทราบเนื้อความดังต่อไปนี้). บุคคลผู้
31,0020,020,
31,0020,021,๑. วิวิธา กมฺมกรณา ตามรูปเป็นปัญจมีวิภัตติ แปลตามรูปนั้นไม่ได้ความ จึงหักแปล
31,0020,022,เป็นทุติยาวิภัตติ ถ้าเป็นรูป วิวิธานิ กมฺมกรณานิ จะควรกว่า.