Book,Page,LineNumber,Text 19,0037,001,แล้ว ๆ เพื่อประโยชน์จะเยี่ยมเยียนบุตรนี้ จักเห็นทรัพย์สมบัติภายใน 19,0037,002,"เรือน เราจะเอาเขาไว้ข้างนอก"" ดังนี้แล้ว จึงนำเอาบุตรออก" 19,0037,003,มาให้นอนที่ระเบียงเรือนข้างนอก. 19,0037,004,[พระพุทธเจ้าเล็งเห็นอุปนิสัยของมัฏฐกุณฑลี] 19,0037,005,ในเวลากำลังปัจจุสสมัย (คือเวลาจวนสว่าง) วันนั้น พระผู้มี 19,0037,006,พระภาคเจ้า เสด็จออกจากพระมหากรุณาสมาบัติ ทรงเล็งดูโลกด้วย 19,0037,007,พุทธจักษุ เพื่อทอดพระเนตรเหล่าสัตว์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์อันพระองค์พอ 19,0037,008,แนะนำได้ ซึ่งมีกุศลมูลอันหนาแน่นแล้ว มีความปรารถนา ซึ่งได้ทำไว้ 19,0037,009,แล้วในพระพุทธเจ้าแต่ปางก่อนทั้งหลาย. ได้ทรงแผ่ตาข่ายคือพระญาณ 19,0037,010,ไปในหมื่นจักรวาล. มัฏฐกุณฑลีมาณพ ปรากฏแล้ว ณ ภายใน 19,0037,011,ตาข่ายคือพระญาณนั้น โดยอาการอันนอนที่ระเบียงข้างนอกอย่างนั้น. 19,0037,012,พระศาสดาทอดพระเนตรเห็นเขาแล้ว ทรงทราบว่า พราหมณ์ 19,0037,013,ผู้บิดานำเขาออกจากภายในเรือนแล้ว ให้นอนให้ที่นั้น ทรงดำริ 19,0037,014,"ว่า ""จะมีประโยชน์บ้างหรือไม่หนอ ด้วยปัจจัยที่เราไปในที่นั้น""" 19,0037,015,"กำลังทรงรำพึง (อยู่) ได้ทรงเห็นเหตุนี้ว่า ""มาณพนี้ จักทำ" 19,0037,016,จิตให้เสื่อมใสในเรา ทำกาละแล้ว จักเกิดในวิมานทองสูง ๓๐ 19,0037,017,โยชน์ในดาวดึงสเทวโลก มีนางอัปสรเป็นบริวารพันหนึ่ง. ฝ่าย 19,0037,018,พราหมณ์จักทำฌาปนกิจสรีระนั้น ร้องไห้ไปในป่าช้า. เทพบุตร 19,0037,019,จักมองดูอัตภาพตนสูงประมาณ ๓ คาวุต (สามร้อยเส้น) ประดับ 19,0037,020,ด้วยเครื่องอลังการ หนัก ๖๐ เล่มเกวียน มีนางอัปสรเป็นบริวาร 19,0037,021, 19,0037,022,๑. กตาธิการานํ มีอธิการอันทำไว้แล้ว.