Book,Page,LineNumber,Text
33,0033,001,บทว่า สุราเมรยปานํ ได้แก่การดื่มซึ่งสุราและเมรัยอย่างใด
33,0033,002,อย่างหนึ่งนั่นเทียว. บทว่า อนุยุญฺชติ คือย่อมเสพ ได้แก่ ย่อม
33,0033,003,กระทำให้มาก.
33,0033,004,สองบทว่า มูลํ ขนติ ความว่า ปรโลกจงยกไว้. ก็ในโลก
33,0033,005,นี้นั่นแล นระนี้จำนองหรือขายขาด แม้ซึ่งทรัพย์อันเป็นต้นทุนมีนา
33,0033,006,และสวนเป็นต้น อันเป็นเครื่องที่จะพึงดำรง [ตน] อยู่ได้ ดื่มสุรา
33,0033,007,อยู่ ชื่อว่าย่อมขุดซึ่งรากเง่าของตน คือเป็นคนหาที่พึ่งมิได้ เป็นคน
33,0033,008,กำพร้าเที่ยวไป.
33,0033,009,พระศาสดา ย่อมตรัสเรียกบุคคลผู้ทำกรรมคือทุศีล ๕ ด้วย
33,0033,010,คำว่า เอวํ โภ. บทว่า ปาปธมฺมา ได้แก่ผู้มีธรรมลามก. บทว่า
33,0033,011,อสญฺตา ได้แก่ผู้เว้นแล้วจากการสำรวม มีการสำรวมทางกาย
33,0033,012,เป็นต้น. พระบาลีว่า อเจตสา ดังนี้บ้าง. ความว่า ผู้ไม่มีจิต.
33,0033,013,สองบทว่า โลโภ อธมฺโม จ ได้แก่โลภะและโทสะ. แท้จริง
33,0033,014,กิเลสชาตแม้ทั้ง ๒ นี้ เป็นอกุศลโดยแท้.
33,0033,015,บาทพระคาถาว่า จิรํ ทุกฺบาย รนฺธยุํ ความว่า ธรรมเหล่านี้
33,0033,016,จงอย่าฆ่า อย่าย่ำยี (ซึ่งท่าน) เพื่อประโยชน์แก่ทุกข์ทั้งหลายมีทุกข์
33,0033,017,ในนรกเป็นต้น ตลอดกาลนาน.
33,0033,018,ในกาลจบเทศนา อุบาสก ๕ คนนั้น ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว.
33,0033,019,พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์ แม้แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.
33,0033,020,เรื่องอุบาสก ๕ คน จบ.