Book,Page,LineNumber,Text 20,0045,001,ถึงพาหนะช้างหรือพาหนะม้าแล้ว ย่อมเสด็จไป แม้สู่ที่ไกล. เรา 20,0045,002,จักสามารถจับท้าวเธอผู้เสด็จมาในที่นั้นได้. 20,0045,003,"พระราชา ตรัสว่า ""อุบายนี้ ใช้ได้"" ดังนี้แล้ว จึงรับสั่ง" 20,0045,004,ให้นายช่างทำช้างยนต์สำเร็จด้วยไม้ เอาผ้าเก่าหุ้มข้างนอก แล้วทำ 20,0045,005,เป็นลวดลาย ให้ปล่อยไปที่ริมสระแห่งหนึ่ง ในที่ใกล้แว่นแคว้นของ 20,0045,006,"พระเจ้าอุเทนนั้น. บุรุษ ๖๐ คนเดิมไปมาภายในท้องช้าง, พวกเขา" 20,0045,007,นำมูลช้างมาทิ้งไว้ในที่นั้น ๆ. พรานป่าคนหนึ่ง เห็นช้างแล้วก็คิดว่า 20,0045,008,"""ช้างนี้ คู่ควรแก่พระเจ้าแผ่นดินของเรา"" ดังนี้แล้ว จึงไปกราบ" 20,0045,009,"ทูลพระเจ้าอุเทนว่า ""พระเจ้าข้า ข้าพระองค์พบช้างตัวประเสริฐ" 20,0045,010,ซึ่งเผือกล้วน มีส่วนเปรียบด้วยยอดเขาไกรลาส คู่ควรแก่พระองค์ 20,0045,011,"ทีเดียว."" พระเจ้าอุเทน ให้พรานป่านั้นแลเป็นผู้นำทาง ขึ้นทรงช้าง" 20,0045,012,พร้อมด้วยบริวาร เสด็จออกไปแล้ว เหล่าจารบุรุษ ทราบการเสด็จ 20,0045,013,มาของท้าวเธอ จึงไปกราบทูลแด่พระเจ้าจัณฑปัชโชต. พระเจ้า 20,0045,014,จัณฑปัชโชตนั้น เสด็จมาแล้ว ซุ่มพลนิกายไว้ ๒ ข้าง ปล่อยว่าง 20,0045,015,ไว้ตรงกลาง. พระเจ้าอุเทนไม่ทรงทราบ ถึงการเสด็จมาของท้าวเธอ 20,0045,016,จึงติดตามช้างไป. มนุษย์ที่อยู่ข้างใน รีบพาช้างไม้หนีไปโดยเร็ว 20,0045,017,"เมื่อพระราชา ทรงร่ายมนต์ดีดพิณอยู่, ช้างไม้ ทำเหมือนไม่ได้ยิน" 20,0045,018,เสียงแห่งสายพิณ หนีไปถ่ายเดียว. พระราชา ไม่อาจทันพระยาช้างได้ 20,0045,019,จึงเสด็จขึ้นม้าติดตามไป. เมื่อท้าวเธอรีบตามไปโดยเร็ว พลนิกาย 20,0045,020,ก็ล้าหลัง. พระราชา ได้เป็นผู้ (เสด็จ) พระองค์เดียวเท่านั้น. ครั้งนั้น 20,0045,021,เหล่าบุรุษของพระเจ้าจัณฑปัชโชต ซึ่งดักซุ่มอยู่แล้ว ณ ๒ ข้าง (ทาง)