|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
12,0033,001,มีบทกัมมประกอบด้วยฉัฏฐีวิภัตติ [ เรียกว่าฉัฏฐีกัมม] ฉันใด ก็มี
|
|
12,0033,002,บทการิตกัมมประกอบด้วยฉัฏฐีวิภัตติ ฉันนั้น แต่ไม่เปลี่ยนชื่อ
|
|
12,0033,003,คงเรียกว่า การิตกัมม ตามเดิม เช่น <B>สมฺปตฺตีนํ</B> ใน อุ. นี้ ทั้งนี้
|
|
12,0033,004,ก็เว้นศัพท์ที่ประกอบด้วย <B>ตุํ เตฺว </B> ปัจจัยเช่นกัน คือการิตกัมมใน
|
|
12,0033,005,บทปัจจัยทั้ง ๒ นี้ คงประกอบด้วย ทุติยาวิภัตติตามธรรมดา อุ. <B>ภนฺเต
|
|
12,0033,006,อหํ มหลฺลกกเล ปพฺพชิโต คนฺถธุรํ ปุเรตุํ น สกขฺสฺสามิ.</B>
|
|
12,0033,007,[จกฺขุปาลตฺเถร. ๑/๗ ] 'ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์บวชใน
|
|
12,0033,008,เวลาแก่ จักไม่อาจยังคันถธุระให้เต็ม.' (แต่ในที่บางแห่ง ก็มีประกอบ
|
|
12,0033,009,เป็นฉัฏฐีวิภัตติ คือ <B>สตฺถุโน อนุโมทนํ กาเรตุกาโม...</B>
|
|
12,0033,010,[ ครหทินฺน. ๓/๙๗ ] ประกอบอย่างนี้มีน้อยเต็มที).
|
|
12,0033,011,[ ๕ ] ในบทที่ต้องเรียกหาการิตกัมม แต่ท่านมิได้เรียง การิตกัมม
|
|
12,0033,012,ไว้ด้วย ในเวลาสัมพันธ์ ต้องเติมเข้ามา <B>อุ. เถโร [ ตํ วจนํ ]
|
|
12,0033,013,อธิวาเสสิ.</B> [ เทวทตฺต. ๑/๗๔ ] พระเถระ [ ยังคำนั้น ] ให้อยู่ทับแล้ว.
|
|
12,0033,014,[ ๖ ] ในข้อความที่กล่าวมาแล้ว มีคำว่า การิต บ้าง การิตกัมม
|
|
12,0033,015,บ้าง คำทั้ง ๒ นี้ มีนัยต่างกันดังนี้: การิต เพ่งถึงตัวผู้ถูกใช้ให้ทำ
|
|
12,0033,016,"หรือผู้ทำให้ฐานรับใช้ ไม่พูดถึงว่าจะประกอบวิภัตติไหน, การิต นั้นแล"
|
|
12,0033,017,ที่ประกอบด้วย ทุติยาวิภัตติ ใช้ในอรรถเป็นที่ใช้ให้ทำ [ยัง]
|
|
12,0033,018,จึงเรียกว่า การิตกัมม. [ ถ้าประกอบด้วย ปฐมาววิภัตติ ใช้ในอรรถ
|
|
12,0033,019,เป็นประธานแทนกัมม ในพากย์เหตุกัมมวาจก ที่ใช้อกัมมธาตุ เรียก
|
|
12,0033,020,ว่าวุตตกัมม. ดูในข้อที่ว่าด้วยวุตตกัมม].
|
|
|